Mapleson C
Mapleson C
"Mapleson C มีถุงสำรอง (reservoir bag) ตำแหน่งอยู่ใกล้กับผู้ป่วยมาก และยังสามารถใช้สำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ (manual ventilation) ในระหว่างการช่วยชีวิต (resuscitation)"
หลายคนอาจสงสัยว่า มันคืออะไร?
Mapleson C เป็นวงจรการดมยาสลบชนิดหนึ่งที่ใช้ในการช่วยหายใจหรือให้ยาสลบ โดยมีลักษณะเด่นคือถุงสำรอง (reservoir bag) จะอยู่ใกล้กับผู้ป่วย ทำให้การระบายอากาศคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 washout) ค่อนข้างดีในกรณีที่มี flow สูง และเป็นวงจรที่ค่อนข้างกะทัดรัด
นอกจากนี้ การที่ถุงสำรองอยู่ใกล้ผู้ป่วย ทำให้สะดวกในการบีบถุงเพื่อช่วยหายใจด้วยมือในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ระหว่างการทำ CPR หรือเมื่อต้องการให้การช่วยหายใจแบบบีบด้วยมืออย่างรวดเร็ว
ภาพที่คุณให้มาอธิบายถึง Mapleson C ว่ามี "reservoir bag positioned very close to the patient and can also be used for manual ventilation during resuscitation"
ดิฉันจะอธิบายวิธีการใช้งาน Mapleson C อย่างถูกต้องตามหลักวิชาชีพให้คุณฟังดังนี้ค่ะ
Mapleson C: ระบบดมยาสลบแบบวงจรเปิดสำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ
Mapleson C เป็นหนึ่งในระบบวงจรดมยาสลบ (breathing circuits) ที่จัดอยู่ในกลุ่มระบบแบบวงจรเปิด (open or non-rebreathing circuits) ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการนำก๊าซที่หายใจออกกลับมาใช้ซ้ำ (no rebreathing of exhaled gases) ข้อดีหลักของ Mapleson C คือความเรียบง่ายและเหมาะสำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ (manual ventilation) โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือระหว่างการกู้ชีพ
ส่วนประกอบหลักของ Mapleson C:
* Patient Connector: จุดเชื่อมต่อกับท่อช่วยหายใจ (endotracheal tube) หรือหน้ากากดมยาสลบ (face mask) ของผู้ป่วย
* Reservoir Bag (ถุงสำรองก๊าซ): ตำแหน่งสำคัญที่อยู่ใกล้กับผู้ป่วยมากที่สุด ทำหน้าที่เป็นแหล่งก๊าซสำรองและใช้สำหรับการบีบเพื่อช่วยหายใจด้วยมือ
* Adjustable Pressure-Limiting (APL) Valve (วาล์วควบคุมแรงดัน): หรือที่เรียกว่า Pop-off valve ทำหน้าที่ระบายก๊าซส่วนเกินออกสู่บรรยากาศเพื่อป้องกันแรงดันที่มากเกินไปในวงจร และสามารถปรับได้เพื่อควบคุมแรงดันในทางเดินหายใจของผู้ป่วย
* Fresh Gas Inlet (ช่องรับก๊าซสด): เป็นจุดที่ก๊าซดมสลบและออกซิเจนจากเครื่องดมยาสลบไหลเข้าสู่ระบบ
หลักการทำงานและการใช้งาน Mapleson C:
Mapleson C ทำงานโดยอาศัยการไหลของก๊าซสด (fresh gas flow, FGF) ที่สูงเพื่อชะล้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ผู้ป่วยหายใจออกมาไม่ให้กลับเข้าสู่ปอดอีก เพื่อป้องกันการสะสมของ CO2 ซึ่งเป็นอันตราย
ขั้นตอนการใช้งานอย่างถูกต้องตามหลักวิชาชีพ:
* การเตรียมพร้อม:
* ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องดมยาสลบและแหล่งจ่ายก๊าซ (ออกซิเจนและก๊าซดมสลบ)
* ประกอบวงจร Mapleson C เข้ากับเครื่องดมยาสลบและตรวจสอบความสมบูรณ์ของวงจร (ไม่มีรอยรั่ว)
* ตรวจสอบการทำงานของ APL valve และถุงสำรองก๊าซ
* การตั้งค่า Fresh Gas Flow (FGF):
* สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้ Mapleson C คือการใช้ FGF ที่สูงเพียงพอ เพื่อให้แน่ใจว่า CO2 ถูกชะล้างออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ
* โดยทั่วไป FGF ควรตั้งค่าอย่างน้อย 2-3 เท่าของปริมาตรนาที (minute volume) ของผู้ป่วย หรือประมาณ 70-100 มล./กก./นาที หรือมากกว่า 100-200 มล./กก./นาที สำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ
* สำหรับผู้ใหญ่ อาจใช้ FGF ประมาณ 8-15 ลิตร/นาที หรือสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการระบายอากาศของผู้ป่วย
* วัตถุประสงค์คือเพื่อป้องกันการกลับหายใจ CO2 (rebreathing of CO2) ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะกรดในเลือดจากคาร์บอนไดออกไซด์ (respiratory acidosis)
* การเชื่อมต่อผู้ป่วย:
* หลังจากผู้ป่วยได้รับยาสลบและท่อช่วยหายใจเข้าที่ หรือสวมหน้ากากดมยาสลบแล้ว ให้เชื่อมต่อวงจร Mapleson C เข้ากับผู้ป่วยอย่างแน่นหนา
* การช่วยหายใจด้วยมือ (Manual Ventilation):
* บีบถุงสำรองก๊าซ (reservoir bag) ช้าๆ และสม่ำเสมอ เพื่อส่งก๊าซเข้าสู่ปอดผู้ป่วย
* สังเกตการขยายตัวของทรวงอกและเสียงลมหายใจ เพื่อประเมินการระบายอากาศที่เพียงพอ
* ควบคุมแรงดันในทางเดินหายใจ โดยการปรับ APL valve เพื่อให้แรงดันไม่สูงเกินไป (โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 20-30 cmH2O สำหรับผู้ใหญ่) เพื่อป้องกันภาวะบารอทรามา (barotrauma)
* ปล่อยถุงสำรองก๊าซเพื่อให้ผู้ป่วยหายใจออก
* การสังเกตและเฝ้าระวัง:
* Capnography (การวัดคาร์บอนไดออกไซด์ขณะหายใจออก): เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้ Mapleson C เพื่อยืนยันว่าไม่มีการกลับหายใจ CO2 และการระบายอากาศเพียงพอ ควรเห็นรูปคลื่น capnography ที่ปกติและค่า EtCO2 (End-tidal CO2) อยู่ในเกณฑ์ปกติ (35-45 mmHg)
* Pulse Oximetry: เพื่อวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2)
* การสังเกตอาการทางคลินิกของผู้ป่วย: เช่น สีผิว, การเคลื่อนไหวของทรวงอก, อัตราการหายใจ, ระดับความลึกของการระงับความรู้สึก
ข้อดีของ Mapleson C:
* ความเรียบง่าย: มีส่วนประกอบน้อย ทำให้ง่ายต่อการประกอบ, ใช้งาน และทำความสะอาด
* เหมาะสำหรับงานกู้ชีพ/ฉุกเฉิน: ถุงสำรองก๊าซอยู่ใกล้ผู้ป่วย ทำให้ควบคุมการบีบช่วยหายใจได้ง่ายและรวดเร็ว
* มี Dead Space น้อย: เนื่องจากไม่มีการกลับหายใจ CO2 ทำให้ไม่เกิดการสะสมของ CO2 ภายในวงจร
ข้อจำกัดและข้อควรระวัง:
* สิ้นเปลืองก๊าซสูง: เนื่องจากต้องใช้ FGF สูงมาก ทำให้ไม่ประหยัดก๊าซดมสลบและออกซิเจน
* ไม่เหมาะสำหรับการช่วยหายใจแบบควบคุมด้วยเครื่อง (mechanical ventilation): เนื่องจากไม่มีวาล์วที่ซับซ้อนสำหรับการควบคุมวงจร
* เสี่ยงต่อภาวะตัวเย็น: การใช้ FGF ที่สูงและไม่ผ่านเครื่องให้ความชื้นความร้อน (humidifier) อาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความร้อนและอุณหภูมิร่างกายลดลงได้
* ความเสี่ยงต่อการกลับหายใจ CO2 หาก FGF ไม่เพียงพอ: ต้องเฝ้าระวังด้วย Capnography อย่างใกล้ชิด
สรุป:
Mapleson C เป็นระบบวงจรดมยาสลบที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ฉุกเฉินและการกู้ชีพ กุญแจสำคัญในการใช้งานอย่างถูกต้องคือการตั้งค่า Fresh Gas Flow (FGF) ให้สูงเพียงพอและการเฝ้าระวังด้วย Capnography อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยได้รับการระบายอากาศที่เพียงพอและไม่มีการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์
ข้อมูลสนับสนุนจาก https://www.openanesthesia.org/