แชร์

Mapleson C

อัพเดทล่าสุด: 16 ก.ค. 2025
64 ผู้เข้าชม


Mapleson C

"Mapleson C มีถุงสำรอง (reservoir bag) ตำแหน่งอยู่ใกล้กับผู้ป่วยมาก และยังสามารถใช้สำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ (manual ventilation) ในระหว่างการช่วยชีวิต (resuscitation)"

                  หลายคนอาจสงสัยว่า มันคืออะไร?


Mapleson C เป็นวงจรการดมยาสลบชนิดหนึ่งที่ใช้ในการช่วยหายใจหรือให้ยาสลบ โดยมีลักษณะเด่นคือถุงสำรอง (reservoir bag) จะอยู่ใกล้กับผู้ป่วย ทำให้การระบายอากาศคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 washout) ค่อนข้างดีในกรณีที่มี flow สูง และเป็นวงจรที่ค่อนข้างกะทัดรัด


     นอกจากนี้ การที่ถุงสำรองอยู่ใกล้ผู้ป่วย ทำให้สะดวกในการบีบถุงเพื่อช่วยหายใจด้วยมือในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ระหว่างการทำ CPR หรือเมื่อต้องการให้การช่วยหายใจแบบบีบด้วยมืออย่างรวดเร็ว
ภาพที่คุณให้มาอธิบายถึง Mapleson C ว่ามี "reservoir bag positioned very close to the patient and can also be used for manual ventilation during resuscitation"
 ดิฉันจะอธิบายวิธีการใช้งาน Mapleson C อย่างถูกต้องตามหลักวิชาชีพให้คุณฟังดังนี้ค่ะ
Mapleson C: ระบบดมยาสลบแบบวงจรเปิดสำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ
Mapleson C เป็นหนึ่งในระบบวงจรดมยาสลบ (breathing circuits) ที่จัดอยู่ในกลุ่มระบบแบบวงจรเปิด (open or non-rebreathing circuits) ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการนำก๊าซที่หายใจออกกลับมาใช้ซ้ำ (no rebreathing of exhaled gases) ข้อดีหลักของ Mapleson C คือความเรียบง่ายและเหมาะสำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ (manual ventilation) โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือระหว่างการกู้ชีพ
ส่วนประกอบหลักของ Mapleson C:
* Patient Connector: จุดเชื่อมต่อกับท่อช่วยหายใจ (endotracheal tube) หรือหน้ากากดมยาสลบ (face mask) ของผู้ป่วย
* Reservoir Bag (ถุงสำรองก๊าซ): ตำแหน่งสำคัญที่อยู่ใกล้กับผู้ป่วยมากที่สุด ทำหน้าที่เป็นแหล่งก๊าซสำรองและใช้สำหรับการบีบเพื่อช่วยหายใจด้วยมือ
* Adjustable Pressure-Limiting (APL) Valve (วาล์วควบคุมแรงดัน): หรือที่เรียกว่า Pop-off valve ทำหน้าที่ระบายก๊าซส่วนเกินออกสู่บรรยากาศเพื่อป้องกันแรงดันที่มากเกินไปในวงจร และสามารถปรับได้เพื่อควบคุมแรงดันในทางเดินหายใจของผู้ป่วย
* Fresh Gas Inlet (ช่องรับก๊าซสด): เป็นจุดที่ก๊าซดมสลบและออกซิเจนจากเครื่องดมยาสลบไหลเข้าสู่ระบบ
หลักการทำงานและการใช้งาน Mapleson C:
Mapleson C ทำงานโดยอาศัยการไหลของก๊าซสด (fresh gas flow, FGF) ที่สูงเพื่อชะล้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ผู้ป่วยหายใจออกมาไม่ให้กลับเข้าสู่ปอดอีก เพื่อป้องกันการสะสมของ CO2 ซึ่งเป็นอันตราย
ขั้นตอนการใช้งานอย่างถูกต้องตามหลักวิชาชีพ:
* การเตรียมพร้อม:
* ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องดมยาสลบและแหล่งจ่ายก๊าซ (ออกซิเจนและก๊าซดมสลบ)
* ประกอบวงจร Mapleson C เข้ากับเครื่องดมยาสลบและตรวจสอบความสมบูรณ์ของวงจร (ไม่มีรอยรั่ว)
* ตรวจสอบการทำงานของ APL valve และถุงสำรองก๊าซ
* การตั้งค่า Fresh Gas Flow (FGF):
* สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้ Mapleson C คือการใช้ FGF ที่สูงเพียงพอ เพื่อให้แน่ใจว่า CO2 ถูกชะล้างออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ
* โดยทั่วไป FGF ควรตั้งค่าอย่างน้อย 2-3 เท่าของปริมาตรนาที (minute volume) ของผู้ป่วย หรือประมาณ 70-100 มล./กก./นาที หรือมากกว่า 100-200 มล./กก./นาที สำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ
* สำหรับผู้ใหญ่ อาจใช้ FGF ประมาณ 8-15 ลิตร/นาที หรือสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการระบายอากาศของผู้ป่วย
* วัตถุประสงค์คือเพื่อป้องกันการกลับหายใจ CO2 (rebreathing of CO2) ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะกรดในเลือดจากคาร์บอนไดออกไซด์ (respiratory acidosis)
* การเชื่อมต่อผู้ป่วย:
* หลังจากผู้ป่วยได้รับยาสลบและท่อช่วยหายใจเข้าที่ หรือสวมหน้ากากดมยาสลบแล้ว ให้เชื่อมต่อวงจร Mapleson C เข้ากับผู้ป่วยอย่างแน่นหนา
* การช่วยหายใจด้วยมือ (Manual Ventilation):
* บีบถุงสำรองก๊าซ (reservoir bag) ช้าๆ และสม่ำเสมอ เพื่อส่งก๊าซเข้าสู่ปอดผู้ป่วย
* สังเกตการขยายตัวของทรวงอกและเสียงลมหายใจ เพื่อประเมินการระบายอากาศที่เพียงพอ
* ควบคุมแรงดันในทางเดินหายใจ โดยการปรับ APL valve เพื่อให้แรงดันไม่สูงเกินไป (โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 20-30 cmH2O สำหรับผู้ใหญ่) เพื่อป้องกันภาวะบารอทรามา (barotrauma)
* ปล่อยถุงสำรองก๊าซเพื่อให้ผู้ป่วยหายใจออก
* การสังเกตและเฝ้าระวัง:
* Capnography (การวัดคาร์บอนไดออกไซด์ขณะหายใจออก): เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้ Mapleson C เพื่อยืนยันว่าไม่มีการกลับหายใจ CO2 และการระบายอากาศเพียงพอ ควรเห็นรูปคลื่น capnography ที่ปกติและค่า EtCO2 (End-tidal CO2) อยู่ในเกณฑ์ปกติ (35-45 mmHg)
* Pulse Oximetry: เพื่อวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2)
* การสังเกตอาการทางคลินิกของผู้ป่วย: เช่น สีผิว, การเคลื่อนไหวของทรวงอก, อัตราการหายใจ, ระดับความลึกของการระงับความรู้สึก
ข้อดีของ Mapleson C:
* ความเรียบง่าย: มีส่วนประกอบน้อย ทำให้ง่ายต่อการประกอบ, ใช้งาน และทำความสะอาด
* เหมาะสำหรับงานกู้ชีพ/ฉุกเฉิน: ถุงสำรองก๊าซอยู่ใกล้ผู้ป่วย ทำให้ควบคุมการบีบช่วยหายใจได้ง่ายและรวดเร็ว
* มี Dead Space น้อย: เนื่องจากไม่มีการกลับหายใจ CO2 ทำให้ไม่เกิดการสะสมของ CO2 ภายในวงจร
ข้อจำกัดและข้อควรระวัง:
* สิ้นเปลืองก๊าซสูง: เนื่องจากต้องใช้ FGF สูงมาก ทำให้ไม่ประหยัดก๊าซดมสลบและออกซิเจน
* ไม่เหมาะสำหรับการช่วยหายใจแบบควบคุมด้วยเครื่อง (mechanical ventilation): เนื่องจากไม่มีวาล์วที่ซับซ้อนสำหรับการควบคุมวงจร
* เสี่ยงต่อภาวะตัวเย็น: การใช้ FGF ที่สูงและไม่ผ่านเครื่องให้ความชื้นความร้อน (humidifier) อาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความร้อนและอุณหภูมิร่างกายลดลงได้
* ความเสี่ยงต่อการกลับหายใจ CO2 หาก FGF ไม่เพียงพอ: ต้องเฝ้าระวังด้วย Capnography อย่างใกล้ชิด
สรุป:
Mapleson C เป็นระบบวงจรดมยาสลบที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการช่วยหายใจด้วยมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ฉุกเฉินและการกู้ชีพ กุญแจสำคัญในการใช้งานอย่างถูกต้องคือการตั้งค่า Fresh Gas Flow (FGF) ให้สูงเพียงพอและการเฝ้าระวังด้วย Capnography อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยได้รับการระบายอากาศที่เพียงพอและไม่มีการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์

    ข้อมูลสนับสนุนจาก https://www.openanesthesia.org/

Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
Speculum disposable
ข้อดีของการใช้งาน vaginal speculum disposable
16 ก.ค. 2025
Medicine and Health Sciences encompass a wide range.
The field encompasses everything from traditional approaches such as surgery.
18 ส.ค. 2023
Contractions may become more frequent and intense the mother may feel pressure.
It can happen through vaginal delivery or cesarean section (C-section) surgery
18 ส.ค. 2023
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy